
โดยขอหยิบยกผู้หญิง 4 กลุ่มตัวอย่างทำธุรกิจบนสื่อออนไลน์ และดึง Google AdWords (กูเกิล แอดเวิร์ด) เข้ามาช่วยให้สามารถค้นหาคำฮิต บนกูเกิลได้อย่างรวดเร็วและง่ายต่อผู้ใช้บริการ สำหรับธุรกิจบนสื่อออนไลน์
น.ส.พลอยทราย ภัสสรศิริ เจ้าของธุรกิจรับจัดงานฌาปนกิจสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ทิ้งแนวคิดเดิมในการทำธุรกิจต้องมีหน้าร้าน มาสู่การบริหารจัดการบน www. petscrematorium.com ที่นอกจากลดต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำ ค่าใช้จ่าย ค่าไฟแล้ว ยังอินเทรนด์กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ที่ใช้อินเทอร์เน็ต ลูกค้าสามารถดูได้แบบเรียลไทม์ กูเกิล แอดเวิร์ด เข้ามาช่วยเสริมให้เว็บไซต์ร้านเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
น.ส.กาญดา พิทักษ์โชคชัย เจ้าของธุรกิจร้านขายหญ้าเทียมออนไลน์กราส ไอเดีย (Grass Idea) บอกว่า เห็นแนวโน้มคนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นการปรับแนวคิดดึงโซเชียล มีเดีย ช่วยเพิ่มลูกค้ากว่า 90% ภายใน 2-3 วัน ประกอบกับลูกค้ายังกระจายตามต่างจังหวัดมากกว่าที่ต้องมากระจุก ตัวเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ
น.ส.สุนทรา สัจจะวัชรพงศ์ เจ้าของศูนย์ฝึกสุนัขโจโจ้เฮ้าส์ ด๊อก มาสเตอร์ กล่าวว่า เมื่อก่อนได้โฆษณาผ่านนิตยสารสัตว์เลี้ยง แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ควร จึงมองเห็นความสำคัญของการใช้งานอินเทอร์เน็ต เพราะอยากรู้อะไรก็ค้นหาผ่านกูเกิล แล้วจึงหันมาโฆษณากับกูเกิล เพราะมีฐานลูกค้ามาก ลูกค้าเข้าถึงง่าย ทำให้ลูกค้าในปัจจุบันกระจายไปทั่วประเทศ ได้ลูกค้าจากประเทศลาว
และสุดท้าย น.ส.ภชร ภู่ประเสริฐ สถาบันสอนภาษาผ่านทางโทรศัพท์ Advance Language Center (ALC) ที่เป็นสินค้าบริการ ไม่สามารถจับต้องได้ แต่การเปลี่ยน แปลงแนวคิดลงโฆษณาสถาบันผ่านสื่อสิ่งพิมพ์นั้น มีค่าใช้จ่ายสูง ผลตอบรับที่ได้ไม่คุ้มค่า และเมื่อกระแสอินเทอร์เน็ตเข้ามาทำให้พฤติกรรมคนไทยเริ่มเปลี่ยนไป ลดบทบาทสิ่งพิมพ์มาใช้อินเทอร์เน็ตแทน จึงใช้บริการกูเกิล แอดเวิร์ด ที่ช่วยให้สถาบันเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ต้นทุนลดลงชัดเจน
ด้าน น.ส.พรทิพย์ กองชุน หัวหน้าฝ่ายการตลาด กูเกิลประเทศไทย ระบุว่า วูแมน ออนเดอะเว็บ เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ของผู้หญิงยุคใหม่ที่ทำงานบนเว็บไซต์ สร้างตัวตนหน้าร้านค้า ซึ่งกูเกิลอยากให้เห็นว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่ ผู้หญิงก็ใช้งานมากและง่ายที่สุด
กลุ่มที่ใช้งานกูเกิล แอดเวิร์ด ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งร้านอาหาร ร้านขายของ ร้านขายเสื้อผ้า และแนวโน้มการใช้งานบนสมาร์ทโฟนมากขึ้น.
อ้างอิง : http://www.dailynews.co.th
ไอซีทีหารือกสทช.แก้กฎหมายคลื่นความถี่

วันนี้(29ส.ค.)ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) หารือร่วมกับพล.อ.อ.ธเรศ ปุณศรี ประธานกสทช.และคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) ในการเจรจาเพื่อแก้กฎหมาย 3 ฉบับที่เกี่ยวข้องได้แก่ พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมพ.ศ.2553(พ.ร.บ.กสทช.) ,พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคมพ.ศ.2544 และพ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศนพ.ศ.2551 เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบริหารจัดสรรคลื่นความถี่ และสอดรับกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว หลังจากนี้จะตั้งคณะกรรมการร่วมโดยกระทรวงไอซีทีเป็นผู้เสนอให้ครม.พิจารณา เพื่อให้มีการปรับปรุงคลื่นความถี่ที่หมดสัญญาสัมปทานก็ต้องคืนคลื่นมายังกสทช.นำไปจัดสรรใหม่ ส่วนคลื่นที่ยังไม่หมดสัญญาสัมปทานก็ร่วมมือปรับปรุงคลื่นความถี่ไม่ให้กระทบต่อกฎหมาย และ เจรจาขอคลื่น 1800 เมกะเฮิร์ตซของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ที่ยังไม่ได้ใช้งานให้กับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) นำไปพัฒนาหารายได้ให้กับองค์กรต่อไป
นอกจากนี้ยังรับหลักการร่างมาตราการเยียวยาผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราวในกรณีสิ้นสุดการอนุญาตสัมปทาน หรือป้องกันซิมดับ โดยมอบหมายให้ บริษัท ทรูมูฟ และ บริษัท ดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) ดูแลบริหารลูกค้ากว่า 17 ล้านราย หลังสิ้นสุดสัมปทาน 1800 เมกะเฮิร์ตซเดือน ก.ย. 2556 แต่ขอนำไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง
อ้างอิง : http://www.dailynews.co.th
เลอโนโวทำได้แท็บเล็ตไม่เกินสี่พันบาท

เปิดตัวพร้อมกัน 3 รุ่น สำหรับผู้ใช้แท็บเล็ตมือถือใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 3,900 บาท เป็นได้ทั้งโทรศัพท์และแท็บเล็ต ผู้บริหารเลอโนโวโอ่ ใช้แล้วจะรู้สึกว่าแตกต่าง และมีทางเลือกในการใช้งานมากขึ้น
นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการเลอโนโว ประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า แท็บเล็ตของเลอโนโว จะลดข้อจำกัดการใช้งานแท็บเล็ตทั้งหมด จุดเด่นของเลอโนโวได้เน้นไปที่การออกแบบขนาดหน้าจอ น้ำหนักเครื่องต้องเบา รองรับได้สองซิม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการติดต่อสื่อสาร เพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้งาน เวลาเลือกบริการดาต้าหรืออินเทอร์ เน็ตจากค่ายมือถือ รวมถึงพอร์ตการเชื่อมต่อที่มีให้ทั้งพอร์ตยูเอสบี ไมโครเอสดีการ์ด ช่องหูฟังมาตรฐาน
นายจีรวุฒิ กล่าวว่า ตลาดแท็บเล็ตในไทยยังเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ข้อมูลของไอดีซี ระบุว่า จำนวนแท็บเล็ตในไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นถึง 94% หรือประมาณ 5.3 ล้านเครื่องภายในปีนี้
ล่าสุด เลอโนโว เปิดตัวแท็บเล็ตใหม่ ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ พร้อมกัน 3 รุ่น คือ เอส 6000 โฮม เป็นแท็บเล็ตจอใหญ่ 10.1 นิ้ว หน่วยประมวลผล 1.2 กิกะเฮิรตซ์ ควอดคอร์ สำหรับใช้งานเพื่อความบันเทิง มัลติมีเดีย เกม รองรับพอร์ตเอชดีเอ็มไอ ราคาประมาณหมื่นบาท จะวางจำหน่ายปลายปี รุ่นเอ 3000 จอ 7 นิ้ว หน่วยประมวลผล 1.2 กิกะเฮิรตซ์ ควอดคอร์ น้ำหนัก 345 กรัม ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมรองรับ 3 จี ราคา 6,900 บาท
รุ่น เอ 1000 เป็นแท็บเล็ตสำหรับผู้ใช้งานแท็บเล็ตครั้งแรก ระบบเสียงดอลบี้ดิจิทัล พลัส จอ 7 นิ้ว หน่วยประมวลผล 1.2 กิกะเฮิรตซ์ ดูอัลคอร์ เชื่อมต่อผ่านไวไฟและบลูทูธ ราคา 3,900 บาท มีวางจำหน่ายในไทยแล้ว.
อ้างอิง : http://www.dailynews.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น